วันอังคารที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2555

สูตรลดความอ้วน – ลดความอ้วนอย่างไรไม่เสียสุขภาพ

สูตรลดความอ้วน ให้ปลอดภัยและได้ผล
คำว่า อ้วน นี่ฟังดูระคายหูอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะคุณสาวๆ ทั้งสาวน้อยสาวใหญ่ เพราะจะโทษเรื่องพันธุกรรมพื้นฐานที่คุณพ่อคุณแม่ให้มาเพียงอย่างเดียวก็ดู ไม่ยุติธรรม เพราะเรื่องอาหารการกิน และสิ่งแวดล้อมก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ชวนให้คนไทยวันนี้อ้วนได้อ้วนดี จากงานวิจัยพบว่าขณะนี้ชาวไทย ไม่น้อยกว่า 25 % เป็นโรคอ้วน และนับวันก็จะมีปริมาณเพิ่มมากขึ้น ทั้งที่ความอ้วนทำให้เกิดโรคต่างๆ ตามมามากมาย เช่น โรคเส้นเลือดหัวใจตีบ โรคเส้นเลือดสมองตีบ เบาหวาน โรคความดันโลหิต โรคระบบทางเดินหายใจ โรคกระดูกเสื่อม โรคระบบทางเดินอาหาร ไส้เลื่อน นิ่วในถุงน้ำดี และโรคมะเร็ง อื่นๆอีกมากมาย เราจึงควรเริ่มลดความอ้วนตั้งแต่วันนี้ และหนึ่งในวิธีที่ช่วยในการลดความอ้วนอย่างได้ผล ก็คือการควบคุมการรับประทานอาหารง่าย ๆ มีวิธีดังนี้

- บริโภคข้าวหรือแป้งได้ตามปกติ แต่ควรลดปริมาณลงจาก เดิม 1 ใน 3 ส่วน

- ให้บริโภคเนื้อปลา ไข่ขาว เต้าหู้และผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลืองทุกวัน

- หลีกเลี่ยงอาหารทอดหรือผัด ให้เปลี่ยนมาเลือกอาหารที่เตรียมโดยการต้ม นึ่ง ย่าง แทน

- หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีไขมันอิ่มตัว อย่างเช่น น้ำมันมะพร้าว น้ำมันปาล์ม ครีมเทียม แนะนำให้บริโภคน้ำมันจากรำข้าว ถั่วเหลือง และเมล็ดทานตะวัน

- ควรดื่มนมพร่องมันเนย วันละ 1-2 แก้ว หากดื่มนมไม่ได้ให้ดื่มนมถั่วเหลืองแทน

- งดการบริโภคน้ำหวาน น้ำอัดลม น้ำผลไม้ที่หวานจัด เหล้า เบียร์ และไวน์

- งดรับประทานอาหารระหว่างมื้อ

- ลดการบริโภคเกลือ อาหารหมักดอง อาหารเค็ม

- ควรออกกำลังกายอย่างน้อยอาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง/สัปดาห์

และสำหรับคนชอบทาน เราก็มี สูตรลดความอ้วน 7 เคล็ดลับ กินไม่อ้วน เพื่อให้นำไปใช้กัน นะคะ

1.ทานอาหารเช้าเป็นประจำ เพราะมื้อเช้าเป็นมื้อที่สำคัญที่สุดและควรเป็นมื้อที่มีคุณค่าครบทั้ง 5 หมู่ ในปริมาณที่เหมาะสม เพราะนอกจากจะช่วยเติมพลังให้ร่างกายและสมองแล้ว ยังช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเส้นเลือดช่วยให้การเผาผลาญพลังงานดีขึ้น

2.เลือกอาหารจากธรรมชาติไม่ขัดสี เช่น ข้าวกล้อง ข้าวบาร์เลย์(มอลต์) ถั่ว ข้าวสาลี (โฮลวีต) เมล็ดทานตะวัน เป็นต้น ซึ่งอาหารเหล่านี้มีคุณค่าทางโภชนาการสูง เป็นแหล่งรวมของแร่ธาตุ วิตามิน โปรตีนที่ปราศจากคอเลสเตอรอลและคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน มีสารแอนติออกซิแดนท์ ใยอาหารและปัจจัยอื่นช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจ นอกจากนี้ยังช่วยลดคอเลสเตอรอลและความดันโลหิตได้ หรืออาจเลือกอาหารที่มีส่วนผสมของธัญพืชไม่ขัดสี เช่น ขนมปังโฮลวีต ซีเรียลจากมอลต์ เป็นต้น

3.เพิ่มผักผลไม้ในมื้ออาหารและทานเป็นประจำ เพื่อเพิ่มวิตามิน เกลือแร่และสารอื่นๆ ที่จำเป็นต่อร่างกาย ช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจ ช่วยนำคอเลสเตอรอลและสารก่อมะเร็งบางชนิดออกจากร่างกาย ทำให้ลดการสะสมของสารก่อมะเร็งบางชนิด และมีกากใยช่วยในการขับถ่าย ช่วยให้กระบวนการต่างๆ ในร่างกายดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ

4.ลดขนมขบเคี้ยวและขนมอบ ที่มีแต่ไขมัน เกลือ น้ำตาลและสารปรุงแต่งอื่นๆ ที่ ส่งผลเสียต่อสุขภาพ หากอยากทานขนมอาจหันมาทานขนมที่มีส่วนผสมของธัญพืชเพื่อเพิ่มคุณค่าทาง โภชนาการให้กับขนมที่มีประโยชน์น้อย อย่างไรก็ตาม ควรทานในปริมาณที่เหมาะสมเท่านั้น

5.กินปลา ไข่และเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน อาหารเหล่านี้เป็นแหล่งโปรตีนที่ดี ช่วยเสริมสร้างร่างกายในผู้เยาว์และซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่เสื่อมสลายในผู้สูง วัย เป็นส่วนประกอบของสารสร้างภูมิคุ้มกันโรคติดเชื้อ ช่วยลดความเสี่ยงของโรคอ้วน ไขมันในเส้นเลือดสูง เป็นต้น

6.ดื่มเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพแทนน้ำหวาน น้ำอัดลม หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งมีน้ำตาลสูง การดื่มน้ำผักผลไม้ก็เป็นทางเลือกที่ดีเพราะอุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ ทั้งคาร์โบไฮเดรต โปรตีน วิตามินและแร่ธาตุกว่า 50 ชนิด เหมาะกับคนทุกเพศทุกวัน

7.ดื่มน้ำและนมให้เป็นนิสัย ควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว เพื่อช่วยระบบขับถ่ายและมีน้ำหล่อเลี้ยงในเซลล์ต่างๆ ของร่างกาย และควรดื่มนมอย่างน้อยวันละ 1-2 แก้ว ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ เพราะนมอุดมไปด้วยคุณค่าโภชนาการสูง ช่วยในการเจริญเติบโตของเด็กๆ ช่วยให้กระดูกและฟันแข็งแรง โดยชนิดของนม ขึ้นอยู่กับวัย หากเป็นเด็กทีกำลังเจริญเติบโตควรเป็นนมจืดธรรมดา แต่ในผู้สูงอายุควรเป็นนมพร่องมันเนยเพื่อมีส่วนช่วยลดคอเลสเตอรอล

การกินเพื่อสุขภาพมีหลากหลายวิธี อยู่ที่ใครจะเลือกปฏิบัติแบบใด แต่หลักง่ายๆ คือทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ นะคะ


วิธีลดน้ำหนักที่ใช้ส่วนใหญ่มักมี สูตรอาหารลดความอ้วน บ้างก็เป็นที่ยอมรับทางการแพทย์ แต่บางวิธีก็ยังไม่มีข้อมูลแน่ชัดว่าปลอดภัย และมีประสิทธิภาพหรือไม่ ในบรรดาวิธีต่างๆ ที่ใช้ควบคุมความอ้วน วิธีเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม ซึ่งรวมถึง การปรับเปลี่ยนการกินอาหารนับเป็นวิธีที่ถูกต้องและเหมาะสมที่สุด การทำอาหารรับประทานเองก็เป็น สูตรอาหารลดความอ้วน ที่ดี วิธีใช้ยาดูเหมือนว่าตอนแรกจะลดน้ำหนักได้เร็ว แต่ในระยะยาวแล้ว สู้วิธีปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไม่ได้เพราะคุมความผอมไว้ได้นานกว่า การใช้สูตรอาหารลดความอ้วนนั้นในการปรับเปลี่ยนอาหารเริ่มจาก การให้ความรู้ความเข้าใจ เกี่ยวกับสารอาหาร พลังงานจากอาหารและชนิดของอาหารต่างๆ จุดประสงค์เพื่อให้สามารถเลือกรับประทานอาหารได้เหมาะสม สามารถคิดปริมาณพลังงานจากสารอาหารได้ และรู้หลักของ การจัดอาหารให้สมดุล

สูตรอาหารลดความอ้วนแนะนำ

สูตรอาหารลดความอ้วน วันที่ 1
อาหารเช้า……..ฝรั่ง กล้วยน้ำว้า โยเกิร์ต
เครื่องดื่ม………น้ำมะละกอปั่นผสมกับน้ำส้มคั้นและขิงเล็กน้อยผสมน้ำลงไปเจือจาง
อาหารกลางวัน……..ข้าวต้มปลากับหน่อไม้ฝรั่งสีเขียว
น้ำผลไม้……….ปั่นมะละกอครึ่งผลกับน้ำส้มคั้น 50 มิลลิกรัมและโยเกิร์ต 100 กรัม
อาหารเย็น……….ก๋วยเตี๋ยวไก่

สูตรอาหารลดความอ้วน วันที่ 2
อาหารเช้า……….ไข่เจียวใส่หอมซอย ข้าวซ้อมมือ 1 ทัพพี
ผลไม้……..กล้วยน้ำว้า 1 ผล และสับปะรด 1 ชิ้น
อาหารกลางวัน………แกงจืดวุ้นเส้น ข้าวซ้อมมือ 1 ทัพพี
เครื่องดื่ม………..น้ำมะละกอปั่นผสมน้ำส้มและขิงเล็กน้อย ผสมน้ำลงไปเจือจาง
อาหารเย็น………..แกงเผ็ดเนื้อ ข้าวซ้อมมือ 1 ทัพพี

สูตรอาหารลดความอ้วน วันที่ 3
อาหารเช้า………กล้วย มะละกอ และโยเกิร์ต
ผลไม้……สับปะรด
อาหารกลางวัน……..ต้มยำกุ้ง ข้าวซ้อมมือ 1 ทัพพี
ผลไม้……กล้วย 1 ผล
อาหารเย็น……….ผัดผักรวมมิตร ข้าวซ้อมมือ 1 ทัพพี

สูตรอาหารลดความอ้วน วันที่ 4
อาหารเช้า…..ไข่เจียวกับพริกหวาน (ไข่หนึ่งฟอง) ข้าวซ้อมมือ 1 ทัพพี
ผลไม้…..ฝรั่งและกล้วยน้ำว้าอย่างละ 1 ผล
อาหารกลางวัน……..ข้าวต้มหมู
เครื่องดื่ม…..น้ำมะละกอปั่นผสมน้ำส้มและขิงเล็กน้อย ผสมน้ำลงไปเจือจาง
อาหารเย็น………ผัดผักเปรี้ยวหวานกุ้ง ข้าวซ้อมมือ 1 ทัพพี

สูตรอาหารลดความอ้วน วันที่ 5
อาหารเช้า……กล้วยน้ำว้า มะละกอ และโยเกิร์ต
เครื่องดื่ม…….น้ำฝรั่ง 1 แก้ว
อาหารกลางวัน……….แกงจืดวุ้นเส้นใส่ผัก ข้าวซ้อมมือ 1 ทัพพี
ผลไม้……….มะม่วง 1 ผล
อาหารเย็น……….แกงเผ็ดไก่ ข้าวซ้อมมือ 1 ทัพพี

สูตรอาหารลดความอ้วน วันที่ 6
อาหารเช้า……..ไข่เจียวกับมะเขือเทศ ข้าวซ้อมมือ 1 ทัพพี
ผลไม้……สับปะรด ฝรั่ง
อาหารกลางวัน…………ข้าวต้มกุ้ง
เครื่องดื่ม……..น้ำมะม่วงปั่นผสมกับน้ำส้มคั้นและขิงเล็กน้อย ผสมน้ำลงไปเจือจาง
อาหารเย็น……….ก๋วยเตี๋ยวผัดซีอิ๋ว

สูตรอาหารลดความอ้วน วันที่ 7
อาหารเช้า……สับปะรด กล้วยน้ำว้า และโยเกิร์ต
เครื่องดื่ม…น้ำมะม่วงปั่นผสมกับน้ำส้มคั้นและขิงเล็กน้อย ผสมน้ำลงไปเจือจาง
อาหารกลางวัน………แกงป่าไก่ ข้าวซ้อมมือ 1 ทัพพี
เครื่องดื่ม……น้ำสับปะรดปั่น
อาหารเย็น…….ผัดผักใส่เต้าหู้ ข้าวซ้อมมือ 1 ทัพพี


สวัสดี ค่ะ วันนี้จะมาบอก สูตรเด็ดลดความอ้วน แบบที่ไม่ต้องอดอาหารให้ทรมาน สามารถลดน้ำหนักได้สัปดาห์ละ 2 ขีดโดยไม่ทรมาน ค่อยเป็นค่อยไปโดยไม่รู้สึกตัวว่ากำลังลดน้ำหนักอยู่ แต่ขอให้ใจเย็นๆ ใช้เวลาซักนิด ค่อยเป็นค่อยไป ไม่เครียด แล้วจะได้ผลดีเองค่ะ ซึ่ง สูตรเด็ดลดความอ้วน วิธีนี้ดีกว่าการอดอาหารคือ สมองเราจะสั่งการว่า ถ้าต้องอดอะไรซ้ำๆ เราจะมีแนวโน้มอยากได้สิ่งนั้นมากขึ้น พูดง่ายๆ คือ “ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ” นั่นเองค่ะ ยิ่งห้ามกินอาหาร หรือห้ามกินของชอบ เราก็ยิ่งอยากกิน ถูกมั้ยคะ

สูตรเด็ดลดความอ้วน โดยไม่ต้องอด ข้อที่ 1 กินเพิ่มหรือเขี่ยออกร้อยละ 20

นั่น คือ ก่อนกินอาหารจานปกติของคุณ ให้เขี่ยอาหารในจานออก 20% แล้วทานผักเพิ่มอีก 20% เท่านี้คุณก็จะอิ่มเท่าเดิม ได้ทานอาหารจานปกติ ทำให้ไม่รู้สึกอดอาหารแต่อย่างใด การทานน้อยลง 20% นั้น ไม่ทำให้คุณรู้สึกว่าทานน้อยลงแต่อย่างใด วิธีนี้จะทำให้คุณสามารถลดอาหารลง 100-200 กิโลแคลลอรี่ต่อวันเลยทีเดียว (ขออย่างเดียวว่า อย่าคิดว่ากินน้อยลงแล้วขอกินอย่างอื่นเพิ่มจากปกติก็แล้วกัน แบบนี้น้ำหนักก็จะเพิ่มแทนที่จะลดลงนะคะ ทานเพิ่มได้แต่ผักและผลไม้ที่ไม่อ้วนค่ะ) คุณไม่ต้องงดอาหารที่ชอบ เพียงแต่ลดปริมาณลง 20% ทุกครั้งที่กิน เท่านั้นเองค่ะ ไม่ยากเลยใช่มั้ยคะ

สูตรเด็ดลดความอ้วน โดยไม่ต้องอด ข้อที่ 2

มา พบกับวิธีลดน้ำหนักโดยไม่ต้องอด ข้อที่ 2 กันนะคะ จากข้อที่ 1 ก็เห็นแล้วว่าง่ายมากๆ ใช่มั้ยคะ มาถึงข้อที่ 2 จะเป็นตัวช่วยให้คุณสามารถทำข้อที่ 1 ได้ไม่พลาดค่ะ

หลักการของสูตรเด็ดลดน้ำหนักโดยไม่ต้องอด ข้อที่ 2 ตักทุกอย่างที่จะกินใส่จานเราให้ครบก่อน ปกติเวลาเรากินอาหารกับเพื่อนๆ หรือครอบครัว ก็มักจะมีกับข้าวหลายๆ อย่างวางอยู่บนโต๊ะ แล้วค่อยๆ ตักกับข้าวมาทีละคำเพื่อจะกิน แบบนี้เราจะกินมากโดยที่เราไม่รู้ตัว วิธีที่ 2 นี้จะให้คุณนั่งดูอาหารทั้งหมดที่คุณจะกินก่อนค่ะ แล้วคิดว่าคุณจะกินอะไรบ้าง จะครบทุกอย่างก็ได้ค่ะ จากนั้นให้ตักอาหารทุกอย่างที่ต้องการจะกินมาใส่จานข้างของคุณเอง ในปริมาณที่คุณต้องการกิน เมื่อคุณเห็นว่า อาหารในจานมันมากจนล้นจาน คุณจะรู้สึกเองว่ามันมากเกินไป คุณจะตักน้อยลง และทานน้อยลงไปโดยปริยายค่ะ ทำให้คุณไม่รู้สึกว่าจะต้องอดอาหาร ต้องบังคับตัวเองว่ากินน้อยๆ นะ ห้ามกินเยอะนะ เพราะคุณตักมาไว้ในจานทั้งหมดแล้ว (อย่าลืมเขี่ยออก 20% ตามวิธีแรกด้วยนะคะ)

สูตรเด็ดลดความอ้วนโดยไม่ต้องอด ข้อที่ 3

มา ถึงข้อที่ 3 กันแล้วนะคะ จาก 2 ข้อแรกจะเห็นว่าแทบไม่ต้องทำอะไรเพิ่มเติม หรือบังคับตัวเองเลยใช่มั้ยคะ ทำข้อ 1 และ 2 ร่วมกัน จะช่วยให้เกิดผลดียิ่งขึ้น แล้วข้อ 3 ล่ะ จะช่วยได้แค่ไหน

สูตรเด็ดลดน้ำหนักโดยไม่ต้องอด ข้อที่ 3 เปลี่ยนภาชนะใส่อาหารให้เล็กลง
ลอง นำจานใบเล็กกับใบใหญ่ มาใส่พิซซ่าขนาดเท่ากัน 1 ชิ้นลงในจานทั้ง 2 ใบดูนะคะ แล้วดูทีละใบว่าเรารู้สึกอย่างไร จะสังเกตได้เลยว่า จานใบเล็กจะรู้สึกว่าพิซซ่าชิ้นใหญ่มากจนกินไม่หมด แต่พอดูจานใบใหญ่ เราจะรู้สึกว่าพิซซ่าชิ้นเล็กนิดเดียว กินไม่พอแน่ๆ ใช่มั้ยคะหลักการนี้นำมาใช้ได้เลยค่ะ นอกจากจานชามแล้ว ช้อนก็มีผลค่ะ ใช้ช้อนเล็กลงก็ทำให้เรากินได้ช้าลง ทำให้เราอิ่มเร็วขึ้นนะคะ สรุปแล้วเราก็จะทานน้อยลงโดยไม่รู้ตัวอีกแล้วค่ะ

สูตรเด็ดลดความอ้วนโดยไม่ต้องอด ข้อที่ 4 ทำให้การกินเป็นเรื่องยุ่งยากเข้าไว้

3 ข้อผ่านแล้ว ง่ายมากๆ เลยใช่มั้ยคะ เพียงปรับเปลี่ยนอะไรนิดหน่อย แต่ไม่ทำให้เรารู้สึกว่าต้องอดอาหารเลย ยอดเยี่ยมมากๆ ทำให้เราไม่ท้อแท้ด้วยนะคะ ลดแบบสบายๆ ไม่เครียดเลยค่ะ มาถึงข้อที่ 4 กันนะคะ

คือ จัดการเอาอาหารหรือขนมในบ้าน หรือที่ทำงาน หรือที่ที่เราอยู่เป็นประจำออกจากระยะสายตาให้หมดค่ะ เช่น หากเรามีชามขนม หรือถุงขนมใดๆ วางอยู่หน้าทีวี พอเรานั่งดูทีวีเราก็เปิดถุงขนมกินไปดูทีวีไป แบบนี้จะทำให้เราน้ำหนักขึ้นโดยไม่รู้ตัวค่ะ เพราะเราจะกินไปเรื่อยๆ พอรู้ตัวอีกทีก็หมดไป 2 ห่อแล้ว อ้วน! ดังนั้น เอามันออกไปให้หมด ถ้ามีอยู่ก็เก็บให้พ้นสายตา ใส่ตู้ล๊อคกุญแจเลย หรือให้คนอื่นกินไปเลยค่ะ แล้วไม่ต้องซื้อมาเพิ่มอีกค่ะ นอกจากนี้ การเดินทางก็สำคัญ จะเห็นว่ามี 7 eleven ทุกหัวถนน จะให้ดีควรหลีกเลี่ยงร้านสะดวกซื้อพวกนี้ให้ไกลที่สุดค่ะ จะเปลี่ยนเส้นทางการเดินทางเลยก็ได้ค่ะ เท่านี้การกินของเราก็จะลำบากมากขึ้น อาจจะไม่คุ้มกับที่ต้องลงทุนลงแรงที่จะกินมัน เราก็จะเลิกกินไปเองค่ะ วิธีนี้เหมาะกับการจัดการกับขนมจุบจิบต่างๆ ค่ะ

สูตรเด็ดลดความอ้วน โดยไม่ต้องอด ข้อที่ 5

มา เกือบครึ่งทางแล้วนะคะ แต่ละวิธีล้วนแล้วแต่ทำได้ง่ายมากๆ ทำให้เรารู้สึกเหมือนกับไม่ได้ลดความอ้วนเลยใช่มั้ยคะ เพียงแต่ปฏิบัติตามวิธีต่างๆ เหล่านี้เท่านั้นเองค่ะ ลองมาดูข้อที่ 5 กันได้เลยค่ะ ง่ายไม่แพ้กันนะคะ แล้วยังเป็นการปรับนิสัยการกินที่ไม่ดีของเราอีกด้วยค่ะ

สูตรเด็ดลดความอ้วน โดยไม่ต้องอด ข้อที่ 5 ปรับวิธีการกินของเราเอง

เมื่อ เราต้องกินข้าวกับเพื่อนๆ หรือครอบครัว ยิ่งจำนวนคนเยอะก็ยิ่งมีแนวโน้มที่จะกินมากขึ้นค่ะ ยิ่งกินไปคุยกันไป เพลินๆ ยิ่งกินกันนานมากขึ้นก็ยิ่งกินกันเยอะขึ้น วิธีปรับก็คือ
- ให้เริ่มกินเป็นคนสุดท้าย
- พยายามกินในอัตราที่เท่ากับคนที่กินช้าที่สุดในโต๊ะ (แต่ถ้าทุกคนกินเร็วเหมือนกันหมดก็ต้องพยายามช้าเองนะคะ)
- หลีกเลี่ยงคำขอ “ช่วยกินอีกนิดนึงนะ” ด้วยการเหลืออาหารส่วนนึงไว้ในจานเสมอ ให้ดูเหมือนกับว่าของเราเองยังกินไม่หมดเลย


สูตรลดความอ้วนมีอยู่มากมายหลายวิธี วันนี้เราจะรวบรวม เคล็ดลับสูตรลดความอ้วนต่าง ๆ มาให้เพื่อน ๆ ได้เลือกลองให้เหมาะกับ พฤติกรรมของตัวเองนะคร้า รวมสูตรลดความอ้วน วิธีต่าง ๆ

รวมสูตรลดความอ้วน ลดความอ้วนง่าย ๆ ด้วยอาหารมื้อเช้า

เริ่มต้นมื้อเช้าคุณภาพ
- วางแผนไว้ล่วงหน้า ปรับปรุงคุณภาพทางโภชนาการของอาหาร เช้าให้ประสบความสำเร็จ คือการเตรียมการไว้ล่วงหน้าสักหนึ่งคืน และใช้เวลาเพียงเล็กน้อยในช่วงเช้าเพื่อลงมือจัดอาหารเช้าที่ง่ายและได้ ประโยชน์ครบถ้วน ช่วยสร้างความรู้สึกสนุกสนาน การเลือกรับประทานอาหารอย่างฉลาดและมีคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วน สำหรับการเริ่มต้นใหม่ จะช่วยทำให้เวลาที่เหลือในวันนั้นมีศักยภาพมากขึ้น

- เลือก อาหารเช้าอย่างง่าย คนส่วนใหญ่มักอ้างเหตุผลของการไม่ทานอาหารเช้าเพราะ “ไม่หิว” หรือ “ไม่มีเวลา” แต่อุปสรรคนั้นแก้ไขได้ง่ายเพียงแค่เลือกเมนูอาหารเช้าที่ปรุงง่าย ๆ ไม่ยุ่งยาก สำหรับคนที่ชินกับการไม่ทานอาหารเช้า เริ่มจากกินนิดๆ หน่อย ๆ ปริมาณน้อย ๆ และตั้งใจทำให้กลายเป็นกิจวัตรประจำวันของคุณให้ได้ก็พอ

- เน้น ไขมันต่ำ เส้นใยสูง อาหารที่มีเส้นใยสูงดีต่อระบบย่อยอาหารและการควบคุมน้ำหนักตัว อาหารมื้อเช้าควรมีปริมาณเส้นใย 3-5 กรัมต่อหนึ่งหน่วยบริโภค การเลือกรับประทานขนมปังโฮลวีต กับแยม Best foods สูตรเพิ่มเนื้อผลไม้เป็นอาหารมื้อแรกของวันจะช่วยให้ร่างกายของเราได้รับ ปริมาณสารอาหารประเภทเส้นใยสูง ไขมันต่ำ อีกทั้งยังได้วิตามินซีจากผลไม้ในแยมด้วยและให้พลังงาน โดยไม่ทำให้กระเพาะทำงานหนักเกินไป

รวมสูตรลดความอ้วน กินอาหารอย่างสมดุล ช่วยลดความอ้วน

วิธีลดความอ้วนโดยการกินอาหารอย่างสมดุล ลดอาหารที่มีไขมันลง เพราะไขมัน 1 กรัมให้พลังงาน 9 แคลอรี ในขณะที่ถ้าเรากินอาหารจากแป้งในปริมาณเท่ากัน จะได้พลังงานเพียง 4 แคลอรีเท่านั้น

การกินอาหารแบบ Reversal Diet มีหลักว่า

  1. ต้องกินอาหารไขมันต่ำและมีโคเลสเตอรอลต่ำกว่า 5% ต่อวัน
  2. พลังงานที่ได้จากไขมันต้องน้อยกว่า 10% ต่อวัน และควรเป็นไขมันไม่อิ่มตัว
  3. ต้องได้รับพลังงานจากคาร์โบไฮเดรต หรือ กลุ่มแป้ง 70-75% ต่อวัน และได้พลังงานจากโปรตีน 15-20% ต่อวัน

คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน

อาหารพวกแป้งหรือคาร์โบไฮเดรต แบ่งได้เป็น 2 พวก คือ

คาร์โบไฮเดรตแบบชั้นเดียว ได้แก่ แอลกอฮอลล์ น้ำผึ้ง น้ำตาล ซึ่งร่างกายจะดูดซึมพลังานไปใช้ทันที่ตกถึงท้อง แต่ไม่ค่อยอยู่ท้องนัก ทำให้หิวง่ายและร่างกายยังแปรรูปคาร์โบไฮเดรตชนิดนี้ไปเป็นไขมันได้ง่าย ด้วย
ส่วนคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน ก่อนที่ร่างกายจะดูดซึมพลังงานไปใช้ได้จะต้องผ่านกระบวนการสันดาปก่อน เมื่อกินแล้วจะอิ่มท้องนานและยังแปรเป็นไขมันได้ยากกว่าแบบแรกด้วย เช่น ข้าว มัน เผือก แครอท ลูกเดือย

วิธีเลือกอาหารหมู่โปรตีน

  1. พยายามให้ร่างกายได้รับ โปรตีนจากพืช โดยเฉพาะถั่วมากกว่าเนื้อสัตว์ เพราะเนื้อสัตว์จะมีไขมันแทรกอยู่ในกล้ามเนื้อ ทำอย่างไรก็หนีไม่พ้นต้องทานไขมันเข้าไปด้วยอยู่ดี นอกจากนี้ Reversal Diet กำหนดให้กินไข่ขาววันละ 2-3 ฟอง ด้วยวิธีต้ม ไม่ทอด ส่วนอาหารไข่ที่ต้องใส่น้ำตาลควรทานให้น้อยที่สุด
  2. หลีกเลี่ยงอาหารที่ปรุงด้วย การทอด เจียว ผัด เน้นอาหารมังสวิรัตที่ให้สารอาหารที่เป็นประโยชน์กับร่างกายมากกว่า แต่มีโคเลสเตอรอลน้อยกว่ากันมาก
  3. ระหว่างไดเอทด้วยวิธีนี้ ต้องดื่มนมพร่องมันเนยอย่างน้อยวันละกล่อง เพื่อป้องกันการขาดโปรตีน

รวมสูตรลดความอ้วน สูตรลดความอ้วน 3 วัน

รวมสูตรลดความอ้วน สูตรลดความอ้วน 7 วัน

รวมสูตรลดความอ้วน สูตรลดความอ้วน 9 วัน

รวมสูตรลดความอ้วน สูตรลดความอ้วน 11 วัน

เพื่อน ๆ ลองเลือกวิธี ที่เหมาะกับตัวเอง ได้เลยนะคะ แต่ละสูตรจะเหมาะกับ พฤติกรรมการทานอาหารของแต่ละท่าน ค่ะ


การทานน้ำตาลมากๆ หรือคนที่ชอบขนมหวาน มักจะมีปัญหาเรื่องน้ำหนักตัว กลัวอ้วน แต่กระนั้นการยับยั้งความอยากทำไมถึงยากแสนยาก บางคนขอให้ได้ทานให้เต็มอิ่มเสียก่อนแล้วก็มาลดความอ้วนกันทีหลังซึ่งได้ผล น้อยมาก นอกจากนี้ยังทำให้มีปัญหากับสุขภาพของช่องปากด้วยและที่สำคัญที่สุดน้ำตาลเป็นปฏิปักษ์กับผู้ที่เป็นโรคเบาหวานอีกด้วย

ในอาหารและขนมไทยทั่วไปมีทั้ง แป้งและน้ำตาลอยู่มาก การที่จะลดการทานน้ำตาลในฉับพลันไม่ใช่เรื่องง่าย มีนักวิชาการและนักโภชนบำบัดหลายคนได้แนะนำวิธีการค่อยๆ ลดน้ำตาลไว้หลายแบบ อย่างเช่น ดร.แคทลีน เดเมซอง นักโภชนาการผู้เขียนหนังสือ The Sugar Addict’s Total Recovery Program แนะนำว่าก่อนที่จะลดปริมาณการทานน้ำตาล ให้ทานอาหารที่มีส่วนประกอบของโปรตีนให้มากขึ้น เพราะโปรตีนจะช่วยลดความอยากน้ำตาลได้ อาหารที่แนะนำ เช่น ไข่ทูน่าสลัด หรืออาหารประเภทถั่ว

จากนั้นให้เริ่มลดอาหารที่ทำจากแป้งขาวเพราะมีส่วนเพิ่ม ระดับน้ำตาลในเลือด ลองเปลี่ยนมาทานพวกธัญพืชที่ไม่ได้ขัดขาว เช่น ขนมปังโฮลวีท ข้าวซ้อมมือ แล้วค่อยๆ เริ่มลดปริมาณน้ำตาลลง เช่น ลดการทานขนมขบเคี้ยว คุกกี้ ลูกอม ช็อกโกแลตหรือเติมน้ำตาลในเครื่องดื่มให้น้อยลง เป็นต้น จนกระทั่งสามารถลดปริมาณน้ำตาลให้เหลือเพียง 1 ช้อนชา หรือน้อยกว่านั้นต่อวัน และเพื่อให้ได้ผล จากนี้ต่อไปคุณควรอ่านฉลากอาหารทุกชนิดที่รับประทานและคำนวณปริมาณน้ำตาลจาก ฉลากนั้นๆ ด้วย

ซึ่งแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้แนะนำว่า หากรู้สึกอ่อนเพลียจากการลดปริมาณน้ำตาลลงให้รับประทานผลไม้แทน เนื่องจากผลไม้นั้นอุดมด้วยน้ำตาลตามธรรมชาติซึ่งให้พลังงานมาก แต่จะไม่เพิ่มน้ำตาลในเลือดมากเท่ากับน้ำตาลทราย นอกจากนี้ให้เสริมด้วยอาหารที่มีเส้นใย (Fiber) สูง เช่น ผัก ผลไม้ เพราะเส้นใยอาหารจะช่วยในการยับยั้งไม่ให้คาร์โบไฮเดรตเปลี่ยนเป็นกลูโคส หรือน้ำตาลในเลือดนั่นเอง

ขณะที่การแพทย์จีนแนะนำ เรื่องการบริโภคน้ำตาลไว้อย่างน่าสนใจโดยระบุว่าความอ่อนเพลียที่เกิดจากการ ที่ระดับน้ำตาลในเลือดเปลี่ยนแปลงบ่อยนั้น เกิดจากการขาดพลังงานในอวัยวะบางส่วน เช่นการขาดพลังงานในกระเพาะอาหารและม้าม แพทย์แผนจีนแนะนำว่ามีอาหารบางประเภทที่ช่วยปรับสมดุลในร่างกายได้ เช่น อัลมอนด์ ขิงมะละกอ ลูกแพร์ มันฝรั่ง และสมุนไพรบางชนิด

สมุนไพรลดความอ้วน มี 2 กลุ่ม


1.สมุนไพรลดความอ้วนที่ยับยั้งการสร้างกรดไขมัน มี 2 ชนิด

- ส้มแขก

สารสกัดจากส้มแขกที่มีกรดไฮดรอกซี่ซีติกเอซิดจะช่วยยับยั้งเอนไซม์ตัวหนึ่ง ชื่อ ซิเตรทไลเอส เมื่อเรากินอาหารเข้าไปจะทำให้ปฏิกิริยาในร่างกายเปลี่ยนอาหารเป็นพลังงาน ATP แต่จะไม่สร้างกรดไขมันขึ้นทำให้เราไม่มีไขมันสะสมในร่างกายทำให้ผอมลง

หากกินส้มแขกก่อนอาหารสักครึ่งชั่วโมงจะช่วยทำให้กินข้าวได้น้อยลงลดความ อยากอาหารลงได้ 10% และทำให้กินข้าวได้น้อยลง ลดความอยากอาหารลงได้ 10% และทำให้ไม่ค่อยหิว ฉะนั้นจึงทำให้อดอาหารได้มากขึ้นส่วนปริมาณในการกินควรกินประมาณ 500-700 มิลลิกรัม

- พริก

ในความเผ็ดของพริกจะมีสารแคปไซซินที่ทำหน้าที่ให้ปฏิกิริยาของร่างกายไม่ สร้างกรดไขมันขึ้น และจะช่วยในการลดน้ำหนักได้ ถ้ามีแคปไซซินมาก ๆ ก็จะไปยับยั้งการสร้างกรดไขมัน

2.สมุนไพรลดความอ้วนที่มีเส้นใยสูง เช่น มะเขือพวง เม็ดแมงลัก

- มะเขือพวง

ในตำรายาไทยบอกว่า มะเขือพวงมีฤทธิ์แรงในการลดน้ำหนักและยังช่วยให้ระบบเผาผลาญดี ขับถ่ายได้ง่าย สามารถนำมาทำอาหารได้หลายอย่าง เช่น ทำแกงป่า ทำน้ำพริก

- เม็ดแมงลัก

เม็ดแมงลักเป็นอาหารที่มีแคลอรีน้อยมาก ๆ จึงเป็นอาหารที่เหมาะกับการลดน้ำหนัก และมีวิธีกินง่าย ๆ เพียงเอาน้ำแตงโมใส่เม็ดแมงลักแล้วนำไปแช่ให้แข็งกินเป็นอาหารเย็นก็จะทำให้ มื้อนั้นอิ่มสบายท้อง

- ชาสมุนไพร

ที่มีคุณสมบัติช่วยยับยั้งความอยาก ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้คุณตบะแตกจากการลดน้ำหนักได้ง่าย

สูตรสมุนไพรลดความอ้วน ชาสมุนไพรลดความอยาก


เวลาที่คุณหิวหรืออยากกินโน่นกินนี่ให้แก้ด้วยการดื่มชามะนาวทุกครั้งที่ อยากกิน ให้นำน้ำอุ่นละลายกับชามา 1 แก้ว แล้วบีบมะนาวใส่ลงไป ห้ามใส่น้ำตาลเด็ดขาดจะช่วยดับความอยากได้ดีทีเดียว

เวลาที่อยากกินกาแฟลองดื่มชามะตูมกับชาตะไคร้ไม่ใส่น้ำตาล ด้วยกลิ่นฉุนของมะตูมและตะไคร้จะช่วยลดความเปรี้ยวปากในการอยากกินกาแฟได้

สำหรับคนที่มีไขมันในเส้นเลือดสูงเป็นโรคความดันโลหิตสูงลองกินชาใบหม่อนจะช่วยบรรเทาอาการได้

สูตรสมุนไพรลดความอ้วน จตุผลาธิกะ เป็นหนึ่งในสมุนไพรลดความอ้วน จตุผลาธิกะเป็นมหาพิกัดแพทย์แผนไทยเป็นดำนานเล่าขานถึงตำรับโบราณจากวัดโพธิ์ เป็นเพียงแค่วิตามิน C ที่สูงกว่าส้ม 20 เท่าก็ทำให้ ผิวสวยยั่งยืน รีดไขมันที่หน้าท้อง บำรุงเลือด เลือดซึ่งเป็นทางสายเอกที่นำเอาอาหารและออกซิเจนเข้าสู่เซลล์ จตุผลาธิกะ ดังเป็นตำนานเล่าขานในตำราแพทยศาสตร์ พระไตรปิฏกในพระพุทธศาสนามาปรุง

การศึกษาวิจัยในห้องทดลองพบว่า จตุผลาธิกะสมุนไพรไทยทั้ง 4 ชนิด มีคุณสมบัติในการกำจัดอนุมูลอิสระได้สูงมาก ดังนั้น เป็น จตุผลาธิกะ สมุนไพรลดน้ำหนัก สมุนไพรลดหน้าท้อง สมุนไพรลดความอ้วน ที่

1. ช่วยให้ผิวขาวปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ ผิวพรรณดี เปล่งปรั่ง สามารถนำมาใช้ในผลิตภัณฑ์ชะลอริ้วรอยได้อย่างมีประสิทธิภาพ

2. ทำให้หน้าท้องแบบราบ ถ่ายไขมันออกโดยเฉพาะหน้าท้อง

3. บำรุง เลือด การทำงานของเม็ดเลือดขาวและเม็ดเลือดแดง คนส่วนใหญ่มักจะไม่ตระหนักถึงความสำคัญของระบบเลือด ทั้งที่ระบบเลือด ทางสายเอกที่จะนำเอาอาหาร ออกซิเจน ฯลฯ เข้าสู่เซลล์และนำสารพิษของเสียออกมาทิ้ง และโรคหลายอย่างที่เกี่ยวข้องกับเม็ดเลือดอย่างคาดไม่ถึง ฉะนั้นสมุนไพรทองเนื้องามตัวนี้มีสรรพคุณ ช่วยปรับสมดุลธาตุทั้ง 4 ดิน น้ำ ลม ไฟ นั่นเองและเป็นสมุนไพรลดความอ้วน

การลดความอ้วนสูตรสมุนไพร พร้อมการควบคุมแคลลอรี่ คือวิธีที่ปลอดภัยและไม่เสียเปล่า เพราะพื้นฐานความอ่อนเยาว์ที่แท้จริงคือการบำรุงดูแลร่างกายให้ได้รับสารอาหารตามธรรมชาติที่มีคุณค่าอย่างครบถ้วน ซึ่งจะให้ผลที่ยั่งยืนกว่าการบำรุงแต่เพียงภายนอก เพราะเมื่อเซลล์ต่างๆ ทั่วร่างกายได้รับสารอาหารที่เป็นประโยชน์ เซลล์เหล่านั้นจะมีความแข็งแรง ซึ่งจะปรากฏให้เห็นภายนอกเป็นความสดชื่นมีชีวิตชีวาในจตุผลาธิกะ สมุนไพรลดน้ำหนัก สมุนไพรลดหน้าท้อง สมุนไพรลดความอ้วน

สำหรับผู้ที่ใส่ใจดูแลสุขภาพและการบำรุงความอ่อนเยาว์ให้คงอยู่ไปนานๆ ทราบดีว่า 2 หัวใจ สำคัญที่เป็นคำตอบของความอ่อนเยาว์คือ การมีสุขภาพที่ดี คู่กับผิวสุขภาพดี ดูเปล่งปลั่ง มีน้ำมีนวลซึ่งนักโภชนาการได้ศึกษาพบว่า มีอาหารจากธรรมชาติหลายชนิดที่มีสารอาหารที่เป็นประโยชน์กับการบำรุงรักษาความอ่อนเยาว์ให้กับผิวและความเยาว์วัยจากการล้างสารพิษ

อาหารธรรมชาติที่โดดเด่นอย่างมากในการบำรุงรักษาความอ่อนเยาว์ก็คือ “มะขามป้อม” ผลไม้ที่ได้ชื่อว่าให้ไวตามินซีสูงที่สุดในโลก มีแร่ธาตุและสารอาหารสำคัญหลายชนิดที่คุณสมบัติช่วยบำรุงรักษาความอ่อนเยาว์ได้แก่ “วิตามินซี” ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ทั้งช่วยบำรุงผิวพรรณให้เต่งตึงและช่วยเสริมสร้างรากผมให้แข็งแรง ที่เป็นสารอาหารสำคัญในการสร้างเม็ดเลือดแดง ซึ่งเม็ดเลือดแดงจะนำพาสารอาหารและออกซิเจนไปเลี้ยงเซลล์ต่างๆ ทั่วร่างกาย รวมถึงเซลล์ผิว


เรื่องของสูตรการลดน้ำหนัก ก็เลยอยากหยิบยกสูตรที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้ค่ะ นั่นก็คือ การลดความอ้วนสูตรพระราชทาน ที่ใช้แล้วได้ผลดีเลยที่เดียว เลยอยากจะนำมาแนะนำต่อเพื่อนๆที่มีปัญหาเรื่องการลดน้ำหนักได้นำไปทดลองดู ค่ะ ระยะเวลาของสูตรนี้ก็แค่เพียง 7 วันเท่านั้น เรามาดูขั้นตอนกันค่ะ

การ ลดความอ้วนสูตรพระราชทาน **ก่อนรับประทานอาหารควรดื่มน้ำก่อน 2 แก้ว**

ลดความอ้วนสูตรพระราชทาน วันแรก

  • มื้อเช้า : น้ำผลไม้หรือโยเกริต์
  • มื้อกลางวัน : ไข่ต้มสองฟอง
  • มื้อเย็น : สลัดผัก

ลดความอ้วนสูตรพระราชทาน วันที่สอง

  • มื้อเช้า : น้ำผลไม้หรือกาแฟไม่ใส่น้ำตาลไม่ใส่ครีม
  • มื้อกลางวัน : ไข่ต้มสองฟอง
  • มื้อเย็น : โยเกริต์

ลดความอ้วนสูตรพระราชทาน วันที่สาม

  • มื้อเช้า : โยเกริต์หรือกาแฟไม่ใส่น้ำตาลไม่ใส่ครีม
  • มื้อกลางวัน : เกาเหลาลูกชิ้นหมู
  • มื้อเย็น : สับปะรด 1 ชิ้น

ลดความอ้วนสูตรพระราชทาน วันที่สี่

  • มื้อเช้า : ขนมปัง 1 แผ่น น้ำผลไม้หรือกาแฟไม่ใส่น้ำตาลไม่ใส่ครีม
  • มื้อกลางวัน : สลัดผักและไก่ย่าง 1 ชิ้น
  • มื้อเย็น : โยเกริต์

ลดความอ้วนสูตรพระราชทาน วันที่ห้า

  • มื้อเช้า : น้ำผลไม้หรือกาแฟไม่ใส่น้ำตาลไม่ใส่ครีม
  • มื้อกลางวัน : ส้มตำและไก่ย่าง 1 ชิ้น
  • มื้อเย็น : สลัดผัก

ลดความอ้วนสูตรพระราชทาน วันที่หก

  • มื้อเช้า : น้ำผลไม้หรือกาแฟไม่ใส่น้ำตาลไม่ใส่ครีม
  • มื้อกลางวัน : ปลานึ่งหรือปลาเผา
  • มื้อเย็น : นมสด

ลดความอ้วนสูตรพระราชทาน วันที่เจ็ด

  • มื้อเช้า : ข้าวสวย 1 ทัพพี และหมูย่าง 1 ชิ้น หรือ ข้าวสวย 1 ทัพพี และไข่ต้ม 1 ลูก
  • มื้อกลางวัน : เกาเหลาลูกชิ้นหมู
  • มื้อเย็น : สับปะรด 1 ชิ้น

ลดความอ้วนสูตรพระราชทาน วันที่แปด

  • มื้อเช้า มื้อกลางวัน มื้อเย็น : ให้รับประทานอะไรก็ได้ตามใจชอบ แต่ถ้าอยากลดน้ำหนักต่อให้เริ่มทำตั้งแต่วันแรก


สวัสดีค่ะ วันนี้เรามี สูตรลดความอ้วน 3 วัน ลดได้ 4.5 กิโล มาฝากกันค่ะ อาหารหลัก ๆ ก็ มีดังนี้ นะคะ

สูตรลดความอ้วน 3 วัน วันที่ 1

มื้อเช้า ชา/กาแฟ (ไม่ใส่น้ำตาล)
ส้มเขียวหวาน 2 ผล
ขนมปังปิ้ง 1 แผ่น (ปิ้งจนแห้งไม่ทาเนย/มาการีน)

มื้อกลางวัน ชา/กาแฟ (ไม่ใส่น้ำตาล)
ทูน่า 4 ออนซ์ = 120 กรัม (ถ้าเป็นทูน่า ในน้ำมันพืชต้อง เอาน้ำมันออกให้หมด)
ขนมปังปิ้ง 1 แผ่น

มื้อเย็น แฮม 2 แผ่น
ถั่วฝักยาวต้ม 120 กรัม(ใช้ถั่วแช่แข็งได้)
ไอศกรีมวานิลาถ้วยเล็ก 1 ถ้วย

สูตรลดความอ้วน 3 วัน วันที่ 2

มื้อเช้า ชา/กาแฟ (ไม่ใส่น้ำตาล)
ขนมปังปิ้ง 1 แผ่น
ไข่ต้ม 1 ฟอง
กล้วยหอม ครึ่งผล

มื้อกลางวัน ชา/กาแฟ (ไม่ใส่น้ำตาล)
cracker 5 แผ่น ต้องเป็น saltine
โยเกิร์ต low fat

มื้อเย็น แฮม 2 แผ่น
บร็อคโคลี่ต้ม 120 กรัม
แครอทต้ม 120 กรัม
ไอศกรีมวานิลาถ้วยเล็ก 1 ถ้วย
กล้วยหอม ครึ่งผล

สูตรลดความอ้วน วันที่ 3

มื้อเช้า ชา/กาแฟ (ไม่ใส่น้ำตาล)
cracker 5 แผ่น
โยเกิร์ต
แอปเปิ้ล 1 ผล

มื้อกลางวัน ชา/กาแฟ (ไม่ใส่น้ำตาล)
ขนมปังปิ้ง 1 แผ่น
ไข่ต้ม 1 ฟอง

มื้อเย็น ทูน่า 4 ออนซ์ 120 กรัม
บีทรูทต้ม 120 กรัม
ดอกกะหล่ำต้ม 120 กรัม
ไอศกรีมวานิลาถ้วยเล็ก 1 ถ้วย
แคนตาลูป 1 ชิ้น

เป็นยังไงกันบ้าง สูตรลดความ 3 วัน ไม่ยากเลยใช่มั้ยหละคะ


หลังจากทำร้ายจิตใจกันกันไปแล้ว ด้วย สูตรลดความอ้วน 3 วัน ตอนนี้ ก็ถึงเวลาต้องขยายเวลาลดน้ำหนักซะที อาจลดได้น้อยไปหน่อย แต่ไม่ค่อยทรมานจิตใจกันมากเท่าไหร่ กับ สูตรลดความอ้วน 7 วันค่ะ มาดูกันเลยค่ะ

สูตรลดความอ้วน 7 วัน วันที่ 1
น้ำผลไม้ 1 แก้ว
ไข่ต้ม 2 ฟอง
โยเกิร์ต

สูตรลดความอ้วน 7 วัน วันที่ 2
โยเกิร์ต
เกาเหลาลูกชิ้น
สับปะรด ครึ่งลูก

สูตรลดความอ้วน 7 วัน วันที่ 3
น้ำผลไม้+ขนมปัง 1 แผ่น
สลัดผัก+ไก่ย่าง 1 ชิ้น
โยเกิร์ต 1 ถ้วย

สูตรลดความอ้วน 7 วัน วันที่ 4
โยเกิร์ต
ส้มตำ+ไก่ย่าง
สลัดผัก

สูตรลดความอ้วน 7 วัน วันที่ 5
น้ำส้ม+ขนมปัง 2 แผ่น
ปลาเผา/ปลานึ่ง 1 ตัว
นม 1 กล่อง 250 ml

สูตรลดความอ้วน 7 วัน วันที่ 6
ข้าว 1 ทัพพี+ไข่ต้ม 1 ฟอง
เกาเหลาลูกชิ้น 1 ชาม
สับปะรด 1/4 ลูก

สูตรลดความอ้วน 7 วัน วันที่ 7
น้ำผลไม้
ไข่ต้ม 2 ฟอง
สลัดผัก


มาลองดูกันหน่อย ว่า สูตรลดความอ้วน 9 วัน มีอะไรบ้างเอ่ย ลองทำตามกันดูนะคะ

สูตรลดความอ้วน 9 วัน วันที่ 1

มื้อเช้า : กาแฟดำ 1 ถ้วย

มื้อกลางวัน : ไข่ต้มแข็ง 2 ฟอง /ผักกาดต้ม 3 ขีด /มะเขือเทศสด 1 ผล

มื้อเย็น : เนื้อไก่อบ 2 ขีด /สลัด /น้ำมะนาว

สูตรลดความอ้วน 9 วัน วันที่ 2

มื้อเช้า : กาแฟดำ 1 ถ้วย

มื้อกลางวัน : เนื้อหมูอบ 2.5 ขีด /โยเกริ์ต 1 ถ้วย

มื้อเย็น: เนื้อไก่อบ 2 ขีด /สลัด /น้ำมะนาว /ผลไม้ 1 ผล

สูตรลดความอ้วน 9 วัน วันที่ 3

มื้อเช้า : กาแฟดำ 1 ถ้วย/ ขนมปังปิ้ง 1 แผ่น

มื้อกลางวัน : ไข่ต้มแข็ง 2 ฟอง /เนื้อหมูอบ 1 ขีด / สลัด /น้ำมะนาว

มื้อเย็น : คื่นช่ายต้มสุก 3 ขีด/ มะเขือเทศ 1 ผล /ผลไม้ 1 ผล

สูตรลดความอ้วน 9 วัน วันที่ 4

มื้อเช้า : กาแฟดำ 1 ถ้วย /ขนมปังปิ้ง 1 แผ่น

มื้อกลางวัน : น้ำส้มคั้น 1 แก้ว/ โยเกริ์ต 1 ถ้วย

มื้อเย็น : ไข่ต้มแข็ง 1 ฟอง / แครอทสด 1 หัว/นมจืด 1 กล่อง

สูตรลดความอ้วน 9 วัน วันที่ 5

มื้อเช้า : แครอทสด 1 หัว(ราดด้วยน้ำมะนาว)

มื้อกลางวัน : เนื้อปลากะพงนึ่ง 2 ขีด

มื้อเย็น : เนื้อไก่อบ 2 ขีด /สลัด

สูตรลดความอ้วน 9 วัน วันที่ 6

มื้อเช้า : กาแฟดำ 1 ถ้วย/ขนมปังปิ้ง 1 แผ่น

มื้อกลางวัน : ไข่ต้มแข็ง 2 ฟอง/ แครอทสด 1 หัว

มื้อเย็น : เนื้อไก่อบ 2 ขีด/ สลัด /น้ำมะนาว

สูตรลดความอ้วน 9 วัน วันที่ 7

มื้อเช้า : ชา 1 ถ้วยไม่ใส่น้ำตาล/ ขนมปังปิ้ง 1 แผ่น

มื้อกลางวัน : น้ำเปล่าอย่างเดียว

มื้อเย็น : หมูอบ 2 ขีด / ผลไม้ 1 ผล

สูตรลดความอ้วน 9 วัน วันที่ 8

มื้อเช้า : กาแฟดำ 1 ถ้วย

มื้อกลางวัน : ไข่ต้มแข็ง 2 ฟอง /ผักกาดต้ม 3 ขีด /มะเขือเทศสด 1 ผล

มื้อเย็น : เนื้อไก่อบ 2 ขีด /สลัด /น้ำมะนาว

สูตรลดความอ้วน 9 วัน วันที่ 9

มื้อเช้า : กาแฟดำ 1 ถ้วย

มื้อกลางวัน : เนื้อหมูอบ 2.5 ขีด /โยเกริ์ต 1 ถ้วย

มื้อเย็น : เนื้อไก่อบ 2 ขีด /สลัด /น้ำมะนาว /ผลไม้ 1 ผล

เมื่อทำครบ สูตรลดความอ้วน 9 วัน หุ่นจะกลายเป็นแบบนี้ ค่ะ


สูตรลดความอ้วน 11 กิโลกรัม ภายใน 11 วัน

สูตรควบคุมน้ำหนักสูตรนี้ ต้องขอบอกเอาไว้ก่อนเลยว่าเหมาะกับคนที่มีน้ำหนักตัวค่อนข้าง มาก และที่ชอบรับประทานอาหารปริมาณมาก จะเห็นผลได้เร็วมากค่ะ แต่คนที่ต้องการควบคุมน้ำหนักก็สามารถ รับประทาน เนื่องจากสูตรนี้เป็นการปรับการเผาผลาญอาหารของร่างกาย ซึ่งหลังจากครบ 11 วันแล้ว จะรับประทานอาหารได้ตามปกติ น้ำหนักจะไม่ขึ้นเป็นเวลา 2 ปี หากทำตามตารางนี้อย่างเคร่งครัดจะลดน้ำหนักได้ประมาณ 7-20 กิโลกรัมค่ะ (ขึ้นอยู่กับไขมันในตัวของผู้ลดนะคะ)

สูตรลดความอ้วน 11 วัน วันที่ 1
เช้า กาแฟดำ 1 ถ้วย (น้ำตาล 1 ก้อน)
กลางวัน ไข่ต้มแข็ง 2 ฟอง ผักกาดต้ม 3 ขีด มะเขือเทศ 1 ผล
เย็น เนื้อไก่อบ 2 ขีด ผักราดสลัดน้ำใส น้ำมะนาว

สูตรลดความอ้วน 11 วัน วันที่ 2
เช้า กาแฟดำ 1 ถ้วย (น้ำตาล 1 ก้อน)
กลางวัน เนื้อหมูอบ 2.5 ขีด โยเกิร์ต 1 ถ้วย
เย็น เนื้อไก่อบ 2 ขีด ผักราดสลัดน้ำใส น้ำมะนาว ผลไม้สด 1 ผล

สูตรลดความอ้วน 11 วัน วันที่ 3
เช้า กาแฟดำ 1 ถ้วย (น้ำตาล 1 ก้อน) ขนมปังปิ้ง 1 แผ่น
กลางวัน ไข่ต้มแข็ง 2 ฟอง เนื้อหมูอบ 1 ขีด ผักราดสลัดน้ำใส น้ำมะนาว
เย็น คื่นไช่ต้มสุก 3 ขีด มะเขือเทศ 1 ผล ผลไม้สด 1 ผล

สูตรลดความอ้วน 11 วัน วันที่ 4
เช้า กาแฟดำ 1 ถ้วย (น้ำตาล 1 ก้อน) ขนมปังปิ้ง 1 แผ่น

กลางวัน น้ำส้มคั้น 1 แก้ว โยเกิร์ต 1 ถ้วย
เย็น ไข่ต้มแข็ง 1 ฟอง แครอทสด 1 หัว นมรสจืด 1 กล่อง

สูตรลดความอ้วน 11 วัน วันที่ 5
เช้า แครอทสด 1 หัว ราดด้วยน้ำมะนาว
กลางวัน เนื้อปลากะพงนึ่ง 2 ขีด
เย็น เนื้อไก่อบ 2 ขีด ผักราดสลัดน้ำใส

สูตรลดความอ้วน 11 วัน วันที่ 6
เช้า กาแฟดำ 1 ถ้วย (น้ำตาล 1 ก้อน) ขนมปังปิ้ง 1 แผ่น
กลางวัน ไข่ต้มแข็ง 2 ฟอง แครอทสด 1 หัว
เย็น เนื้อไก่อบ 2 ขีด ผักสลัดน้ำใส น้ำมะนาว

สูตรลดความอ้วน 11 วัน วันที่ 7
เช้า ชา 1 ถ้วย ไม่ใส่น้ำตาล ขนมปังปิ้ง 1 แผ่น
กลางวัน น้ำเปล่าเพียงอย่างเดียว
เย็น เนื้อหมูอบ 2 ขีด ผลไม้สด 1 ผล

สูตรลดความอ้วน 11 วัน วันที่ 8
เช้า กาแฟดำ 1 ถ้วย (น้ำตาล 1 ก้อน)
กลางวัน ไข่ต้มแข็ง 2 ฟอง ผักกาดต้ม 3 ขีด มะเขือเทศ 1ผล
เย็น เนื้อไก่อบ 2 ขีด ผักราดสลัดน้ำใส น้ำมะนาว

สูตรลดความอ้วน 11 วัน วันที่ 9
เช้า กาแฟดำ 1 ถ้วย (น้ำตาล 1 ก้อน)
กลางวัน เนื้อหมูอบ 2 ขีด โยเกิร์ต 1 ถ้วย
เย็น เนื้อไก่อบ 2 ขีด ผักราดสลัดน้ำใส น้ำมะนาว

สูตรลดความอ้วน 11 วัน วันที่ 10
เช้า กาแฟดำ 1 ถ้วย (ไม่ใส่น้ำตาล) ขนมปังปิ้ง 1 แผ่น
กลางวัน ไข่ต้มแข็ง 2 ฟอง เนื้อหมูอบ 1 ขีด ผักราดสลัดน้ำใส น้ำมะนาว
เย็น คื่นไช่ต้มสุก 3 ขีด มะเขือเทศ 1 ผล ผลไม้สด 1 ผล

สูตรลดความอ้วน 11 วัน วันที่ 11
เช้า กาแฟดำ 1 ถ้วย (น้ำตาล 1 ก้อน) ขนมปังปิ้ง 1 แผ่น
กลางวัน น้ำส้มคั้น 1แก้ว โยเกิร์ต 1 ถ้วย
เย็น ไข่ต้มแข็ง 1 ฟอง แครอทสด 1 หัว นมรสจืด 1 กล่อง

ข้อแนะนำ สำหรับ สูตรลดความอ้วน 11 วัน
หากรู้สึกหิวนอกเหนือจากเวลามื้ออาหารที่กำหนดให้ดื่มน้ำมากๆ ห้ามดื่มหรือทานอาหารอย่างอื่น ขอย้ำน้ำเปล่าเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

ขอบคุณ http://www.weightlosspills.prachinpost.com/